คุณรู้ไหม..เว็บไซต์แรกของโลกคือเว็บอะไร?
คุณรู้ไหม..เว็บไซต์แรกของโลกคือเว็บอะไร?
ลองเปิดไปนี่สิ http://info.cern.ch/
ลองเปิดไปนี่สิ http://info.cern.ch/
http://info.cern.ch/ เปิดตัวครั้งแรกบนโลกไซเบอร์เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2534
เว็บไซต์นี้ สร้างโดย เซอร์ทิโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลี (Sir Timothy John Berners-Lee, OM, KBE, FRS, FREng, FRSA) ซึ่งคนทั้งโลก(กระมัง) รู้จักในนาม ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี ผู้คิดและพัฒนาระบบ เวิลด์ไวด์เว็บ (WorldWideWebหรือ www) เป็นคนแรกของโลก
เว็บไซต์นี้ สร้างโดย เซอร์ทิโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลี (Sir Timothy John Berners-Lee, OM, KBE, FRS, FREng, FRSA) ซึ่งคนทั้งโลก(กระมัง) รู้จักในนาม ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี ผู้คิดและพัฒนาระบบ เวิลด์ไวด์เว็บ (WorldWideWebหรือ www) เป็นคนแรกของโลก

ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี
ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี เกิดในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นบุตรของนายคอนเวย์ เบอร์เนิร์ส-ลี และนางแมรี ลี วูดส์ 2 นักคณิตศาสตร์ ผู้อยู่ในทีมสร้างคอมพิวเตอร์"แมนเชสเตอร์ มาร์ก1" ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ยุคแรกของโลก
ช่วงเดือนมิถุนายน - ธันวาคม 2523 ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี ทำงานเป็นFreelance อยู่ที่เซิร์น (Cern หรือEuropean Organization for Nuclear Research)และเขาเสนอโครงการ "ข้อความหลายมิติ" (Hypertext) ขึ้นเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างนักวิจัยด้วยกัน โดยมีการเริ่มสร้างระบบต้นแบบไว้แล้ว ในชื่อ ENQUIRE
ทั้งนี้ ในปี 2532 เซิร์น ถือเป็นศูนย์อินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเบอร์เนิร์ส-ลีได้เล็งเห็นโอกาสในการใช้"ข้อความหลายมิติ"ผนวกเข้ากับอินเทอร์เน็ต
เขาเขียนไว้ในข้อเสนอโครงการของเขาเมื่อเดือนมีนาคม 2532 ว่า"...ผมเพียงเอาความคิดเรื่องข้อความหลายมิตินี้เชื่อมต่อเข้ากับความคิด "ทีซีพี" และ "DNS"และเท่านั้นก็จะได้ "เวิลด์ไวด์เว็บ.."
ในปี 2533 โรเบิร์ต ไคลิยู ก็เข้ามาช่วยปรับร่างโครงการให้ ซึ่ง เบอร์เนิร์ส-ลี ได้ใช้ความคิดเดียวกับระบบเอ็นไควร์มาใช้สร้างเวิลด์ไวด์เว็บ โดยได้ออกแบบและสร้างเว็บเบราว์เซอร์และเอดิเตอร์ตัวแรก เรียกว่า World Wide Webและพัฒนา NEXT STEP เรียกว่า httpd ซึ่งย่อมาจาก HyperText Transfer Protocal Deamon
ช่วงเดือนมิถุนายน - ธันวาคม 2523 ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี ทำงานเป็นFreelance อยู่ที่เซิร์น (Cern หรือEuropean Organization for Nuclear Research)และเขาเสนอโครงการ "ข้อความหลายมิติ" (Hypertext) ขึ้นเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างนักวิจัยด้วยกัน โดยมีการเริ่มสร้างระบบต้นแบบไว้แล้ว ในชื่อ ENQUIRE
ทั้งนี้ ในปี 2532 เซิร์น ถือเป็นศูนย์อินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเบอร์เนิร์ส-ลีได้เล็งเห็นโอกาสในการใช้"ข้อความหลายมิติ"ผนวกเข้ากับอินเทอร์เน็ต
เขาเขียนไว้ในข้อเสนอโครงการของเขาเมื่อเดือนมีนาคม 2532 ว่า"...ผมเพียงเอาความคิดเรื่องข้อความหลายมิตินี้เชื่อมต่อเข้ากับความคิด "ทีซีพี" และ "DNS"และเท่านั้นก็จะได้ "เวิลด์ไวด์เว็บ.."
ในปี 2533 โรเบิร์ต ไคลิยู ก็เข้ามาช่วยปรับร่างโครงการให้ ซึ่ง เบอร์เนิร์ส-ลี ได้ใช้ความคิดเดียวกับระบบเอ็นไควร์มาใช้สร้างเวิลด์ไวด์เว็บ โดยได้ออกแบบและสร้างเว็บเบราว์เซอร์และเอดิเตอร์ตัวแรก เรียกว่า World Wide Webและพัฒนา NEXT STEP เรียกว่า httpd ซึ่งย่อมาจาก HyperText Transfer Protocal Deamon

คอมคู่ชีพเครื่องแรกของทิม เบอร์เนิร์ส-ลี
ประวัติศาสตร์อินเตอร์เน็ต บันทึกไว้ว่า เว็บไซต์แรกสุดที่เซิร์นนำขึ้นออนไลน์เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม2534 โดยให้คำอธิบายว่าเวิลด์ไวด์เว็บคืออะไร การที่จะเป็นเจ้าของเบราว์เซอร์ทำได้อย่างไร และจะติดตั้งเว็บเซิร์บเวอร์ได้อย่างไร
จากนั้น เบอร์เนิร์ส-ลี ก็ให้ความคิดแก่ทุกคนและทุกองค์กรโดยไม่คิดมูลค่า เขาไม่เคยจดทะเบียนลิขสิทธิ์การค้นคิดของเขาเลย รวมทั้งไม่เรียกค่าตอบแทนหรือรางวัลอื่นใดจากใคร นอกจากเงินเดือนปกติ ดังนั้น กลุ่มบริษัทเวิลด์ไวด์เว็บจึงตัดสินใจไม่คิดมูลค่าใดๆ จากการนำมาตรฐานของกลุ่มบริษัทไปใช้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกรายยอมรับมาตรฐานเดียวกันได้บนพื้นฐานทางเทคโนโลยี ไม่ใช่พื้นฐานค่าสิขสิทธิ์ถูกหรือแพง
จากนั้น เบอร์เนิร์ส-ลี ก็ให้ความคิดแก่ทุกคนและทุกองค์กรโดยไม่คิดมูลค่า เขาไม่เคยจดทะเบียนลิขสิทธิ์การค้นคิดของเขาเลย รวมทั้งไม่เรียกค่าตอบแทนหรือรางวัลอื่นใดจากใคร นอกจากเงินเดือนปกติ ดังนั้น กลุ่มบริษัทเวิลด์ไวด์เว็บจึงตัดสินใจไม่คิดมูลค่าใดๆ จากการนำมาตรฐานของกลุ่มบริษัทไปใช้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกรายยอมรับมาตรฐานเดียวกันได้บนพื้นฐานทางเทคโนโลยี ไม่ใช่พื้นฐานค่าสิขสิทธิ์ถูกหรือแพง
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด ที่ในปี 2548ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี ได้รับยกย่องจากนิตยสาร Time ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลของศตวรรษที่ 20
นอกจากนั้น ในวันที่ 13มิถุนายน 2550 เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายหน้า จากสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เป็นการส่วนพระองค์(ทิมจึงมีคำว่า"เซอร์"นำหน้าชื่อ) ซึ่งนับถึงวันนี้ คนที่ได้รับเครื่องราชนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ มีเพียง24คนเท่านั้น
นอกจากนั้น ในวันที่ 13มิถุนายน 2550 เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายหน้า จากสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เป็นการส่วนพระองค์(ทิมจึงมีคำว่า"เซอร์"นำหน้าชื่อ) ซึ่งนับถึงวันนี้ คนที่ได้รับเครื่องราชนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ มีเพียง24คนเท่านั้น
ว่างๆ ลองเปิด http://info.cern.ch เว็บไซต์แห่งแรกของโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น